บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 120,300 ตัว
วันนี้ (27 เมษายน 2565) บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนชมรมประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อ.เมือง และอ.บ้านฉางสามัคคี โดยกลุ่มประมงเรือเล็กเก้ายอด ตลอดจนส่วนราชการในพื้นที่ จัดกิจกรรม “ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 120,300 ตัว” ณ บริเวณกลุ่มประมงเรือเล็กเก้ายอด อ.เมือง จ.ระยอง โดยมี ว่าที่ร้อยตรี พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี
คุณรัตติกูล ปิยะวงค์วาณิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด กล่าวถึงกิจกรรมที่ได้ร่วมกันจัดขึ้นในวันนี้ว่า กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเป็นหนึ่งในกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ PTTLNG มีความตั้งใจในการทำร่วมกับกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดระยองเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์และช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสร้างสมดุลระบบนิเวศทางทะเล
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เราทำมาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยกิจกรรมการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนหลายๆ หน่วยงาน อาทิ รองนายกเทศมนตรีนครระยอง ประมงจังหวัดระยอง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลระยอง ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ประธานชมรมประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อ.เมือง และอ.บ้านฉางสามัคคี ประมงเรือเล็กเก้ายอดและสมาชิก เข้าร่วมกิจกรรม ตลอดจน พนักงานจิตอาสาของ PTTLNG ซึ่งได้ร่วมกันปล่อยกุ้งกุลาดำ ปลาเก๋า ปูดำ และหอยหวาน รวมทั้งสิ้นจำนวน 120,300 ตัว
PTTLNG ในฐานะผู้ดำเนินการสถานีแอลเอ็นจี นอกจากภารกิจหลักซึ่งมีหน้าที่ในการจัดหาพลังงานเพื่อความมั่นคงของประเทศแล้ว การให้ความร่วมมือและส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่บริษัทฯ ตระหนักและ ให้ความสำคัญอยู่เสมอในการเดินหน้าควบคู่กันไป ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการเอง และร่วมกับกลุ่ม ปตท. มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในวันนี้ อย่างน้อยจะเป็นการช่วยอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มประมงในพื้นที่จังหวัดระยองได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของ PTTLNG ในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นและดูแลช่วยเหลือสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน
ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน